ปัญหาความผิดปกติของการนอนหลับในเด็กเป็นสิ่งที่ส่งผลกระทบต่อพัฒนาการสติปัญญา และอารมณ์เป็นอย่างมาก จา งานสัมมนาวิชาการ Infant Sleep Symposium ที่นำเสนอผลงานด้านวิชาการในหัวข้อ ปัญหาการนอนหลับในเด็ก “Sleeping Like a Baby : Evaluation and Management of Sleep Problems in Infants and Toddlers” พบว่า ความผิดปกติในการนอนหลับที่พบบ่อยที่สุดในเด็ก ได้แก่ การนอนไม่หลับเป็นนิสัย การหยุดหายใจระหว่างการนอนหลับเนื่องจากมีการอุดกั้นทางเดินหายใจ หัวใจเต้นเป็นจังหวะที่ผิดปกติ และการละเมอเดิน หรือการฝันร้ายต่าง ๆ
เนื้อหา
1 ปัญหาการนอนหลับผิดปกติในเด็ก แบบไหนอันตรายกว่ากัน?
2 การหยุดหายใจระหว่างการนอนหลับอันตรายเพราะอะไร?
3 วิธีการรักษาภาวะหยุดหายใจตอนนอนในเด็ก
4 สรุปปัญหาความผิดปกติของการนอนหลับระดับโลกที่เจอในเด็กไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ
ปัญหาการนอนหลับผิดปกติในเด็ก แบบไหนอันตรายกว่ากัน?
การนอนหลับอย่างเป็นธรรมชาติของเด็กเล็ก ขึ้นอยู่กับการดูแลของพ่อแม่ แต่มีปัญหาหนึ่ง ที่พ่อแม่ไม่สามารถเข้าไปควบคุมได้ นั่นคือ การหยุดหายใจระหว่างการนอนหลับเนื่องจากมีการอุดกั้นทางเดินหายใจ (Obstructive Sleep Apnea) และส่งผลต่อพัฒนาการทางร่างกายและสมองของเด็กมาก
การหยุดหายใจระหว่างการนอนหลับอันตรายเพราะอะไร?
ก่อนอื่นต้องเข้าใจธรรมชาติการนอนของเด็กก่อนว่า เด็กทุกคนมีความแตกต่างกัน แต่ละคนมีลักษณะพิเศษในการนอนหลับและการตื่นนอน เด็กเล็กๆ จะมีช่วงเวลาการตื่นนอนสั้นๆ ตลอดทั้งคืน ลักษณะการนอนหลับจะมีผลต่ออุปนิสัย สุขภาพ และการเจริญเติบโตของเด็ก
แต่เด็กที่มีการหยุดหายใจระหว่างการนอนหลับ จะได้รับออกซิเจนเข้าไปในร่างกายน้อย มีอาการง่วงนอนในเวลากลางวัน ทำให้เรียนหนังสือไม่เต็มที่
วิธีการรักษาภาวะหยุดหายใจตอนนอนในเด็ก
การรักษานั้น เริ่มต้นจากการตรวจคัดกรอง แพทย์จะทำการตรวจสอบประวัติ รวมถึงข้อซักถามเพิ่มเติม หากพบว่าเด็กมีภาวะเสี่ยงของโรค และอาจจะมีการใช้เครื่อง CPAP หรือ BiPAP เข้ามาช่วยรักษาสำหรับกรณีที่มีการอุดกั้น แต่เด็กบางคนอาจจะได้รับการผ่าตัดแทน ถ้าสาเหตุเกิดจากต่อมทอนซิล (Tonsils) และต่อมอะดีนอยด์ (Adenoid) โต
สรุปปัญหาความผิดปกติของการนอนหลับระดับโลกที่เจอในเด็กไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ
ความผิดปกติในการนอนหลับที่พบบ่อยที่สุดในเด็ก และเป็นอันตราย คือ การหยุดหายใจระหว่างการนอนหลับเนื่องจากมีการอุดกั้นทางเดินหายใจ (Obstructive Sleep Apnea) เพราะว่ามันส่งผลต่อพัฒนาการทางร่างกาย และสมองของเด็ก ทำให้เด็กอารมณ์ร้าย สมาธิสั้น เรียนหนังสือไม่เก่ง และอาจจะทำให้เด็กเกิดโรคแรซ้อนอื่น ๆ ตามมาได้ โดยเฉพาะปัญหาโรคหัวใจ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
บริษัท จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (ไทย) จำกัด และ Local Press Release